1. ภาพรวมสถานการณ์: ทำไม “ขอทานเขมร” จึงกลายเป็นเรื่องเรื้อรังในสังคมไทย?
ปัญหาขอทานชาวกัมพูชาในประเทศไทย ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่กลับปรากฏชัดขึ้นในรอบทศวรรษที่ผ่านมา โดยเฉพาะในเขตเมืองใหญ่ สี่แยกไฟแดง พื้นที่ท่องเที่ยว และเมืองชายแดน สาเหตุสำคัญมาจากทั้งปัจจัยภายในกัมพูชา (ความยากจน ความเหลื่อมล้ำ โครงสร้างเศรษฐกิจชนบท) และปัจจัยในไทย (ช่องว่างทางกฎหมาย เศรษฐกิจเมืองใหญ่ แรงจูงใจเรื่องรายได้)
2. โครงสร้างขบวนการ: วงจรขอทานจากกัมพูชาสู่ไทย
– กลุ่มเป้าหมายหลัก: เด็ก ผู้หญิง คนพิการ หรือผู้สูงอายุจากจังหวัดยากจนในกัมพูชา ถูกชักจูง ล่อลวง หรือ “ยืมตัว” ข้ามแดนมายังไทย บางรายถูกพ่อแม่หรือเครือญาตินำมาเอง
– รูปแบบขบวนการ: มีทั้งแบบนายหน้า (เอเย่นต์) จัดการตั้งแต่เดินทางผ่านช่องทางธรรมชาติ ไปจนถึงจัดสรรพื้นที่ขอทาน (จุดยุทธศาสตร์/แยกใหญ่)
– การดำเนินการ: ผู้ขอทานส่วนใหญ่อยู่รวมกันเป็นกลุ่มใหญ่ในที่พัก “แคมป์” รอบเมือง มีหัวหน้ากลุ่มคอยควบคุม แบ่งรายได้ ส่งส่วย หรือมีการหักเปอร์เซ็นต์ก่อนส่งเงินกลับบ้าน
– การลักลอบเข้าเมือง: ส่วนใหญ่ใช้ช่องทางธรรมชาติหรือใช้วิธีติดสินบนเจ้าหน้าที่เพื่อข้ามแดน และบางรายมี “โควต้า” ขอทานในจุดสำคัญ
3. ผลกระทบหลายมิติ
- เศรษฐกิจเมือง-สังคม: การขอทานสร้างภาพลักษณ์ด้านลบ ทำให้เกิดความรำคาญในเมืองท่องเที่ยว บั่นทอนความเชื่อมั่นในระบบกฎหมายของไทย
- สิทธิมนุษยชน: เด็ก ผู้หญิง และคนพิการถูกล่วงละเมิด ใช้งานเยี่ยงเครื่องมือหารายได้ ถูกตัดขาดจากโอกาสทางการศึกษาและพัฒนาตัวเอง
- สุขอนามัย/ความปลอดภัย: ขอทานบางรายอยู่ในสภาพแวดล้อมเสี่ยงโรค ขาดการดูแลที่เหมาะสม และเป็นกลุ่มเปราะบางต่ออาชญากรรมอื่น
- เชิงนโยบายระหว่างประเทศ: ก่อความตึงเครียดต่อความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา รัฐไทยถูกตั้งคำถามด้านสิทธิเด็ก-สิทธิมนุษยชนในเวทีระหว่างประเทศ
4. มุมมองทางกฎหมาย: ข้อจำกัด-ช่องโหว่ และบทบาทรัฐ
– กฎหมายไทย: พ.ร.บ.ควบคุมการขอทาน 2559 ห้ามมิให้มีการขอทาน ไม่ว่าจะโดยสัญชาติใด มีโทษจับกุม ผลักดันกลับประเทศ/ส่งตัวให้สถานคุ้มครอง แต่ “โทษปรับ” มักน้อย ไม่เกิดผลจริงจัง
– กฎหมายข้ามชาติ: ไทย-กัมพูชามีความร่วมมือเรื่อง “ผลักดัน-ส่งกลับ” แต่ระบบคัดกรองเหยื่อขบวนการค้ามนุษย์ยังไม่รัดกุม ทำให้หลายราย “วนกลับมา” ได้อีก
– บทบาทเจ้าหน้าที่รัฐ: พบว่าบางช่วงมีการ “รับส่วย” หรือเพิกเฉยจากเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ การบังคับใช้กฎหมายยังขาดประสิทธิภาพ ขาดกลไกช่วยเหลือเหยื่อที่แท้จริง
5. ความท้าทายในการแก้ไขปัญหา
- แก้ไขที่ปลายเหตุ: การจับกุมและผลักดันกลับบ้านอาจทำให้ขบวนการหยุดชะงักระยะสั้น แต่ “วงจรขอทาน” กลับมาใหม่เสมอ
- มุมมองเชิงลึก: ตราบใดที่ “ต้นตอ” ความยากจน-ความเหลื่อมล้ำในกัมพูชายังไม่ถูกแก้ โอกาสที่เด็กและผู้เปราะบางจะถูกส่งมาขอทานก็ยังมีอยู่
- บทบาทของสังคมไทย: การให้เงินโดยตรงช่วยให้ขอทานรอดชีวิตแต่ทำให้ขบวนการดำรงอยู่ จำเป็นต้องเปลี่ยนค่านิยมและสนับสนุนองค์กรช่วยเหลือ
6. ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย
- รัฐไทยควรเข้มงวดกับเครือข่ายนายหน้าและผู้แสวงหาผลประโยชน์ พร้อมดำเนินคดีอย่างจริงจัง
- สร้างกลไกคุ้มครองเหยื่อ—โดยเฉพาะเด็กและผู้พิการ ไม่ปฏิบัติเช่นผู้กระทำผิด แต่แยก “เหยื่อ” ออกจาก “ขบวนการ”
- เร่งประสานงานกับกัมพูชา ให้มีการฟื้นฟู/ให้โอกาสทางเศรษฐกิจแก่ครอบครัวต้นทาง
- รณรงค์ความรู้ให้สังคมไทยลดการให้เงินโดยตรง และสนับสนุนทางเลือกอื่น (บริจาคผ่านองค์กร, ส่งเสริมอาชีพ ฯลฯ)
- พัฒนา “ด่านตรวจคนเข้าเมือง” และเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ชายแดนให้มีความโปร่งใส-ไร้คอร์รัปชัน
7. บริบทภูมิภาคและอนาคต
ปรากฏการณ์ “ขอทานข้ามชาติ” ไม่ได้เกิดแค่ไทย-กัมพูชา แต่ยังมีในลาว เวียดนาม พม่า ฯลฯ สะท้อนความท้าทายเรื่องความยากจนและการเคลื่อนย้ายแรงงานในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การแก้ปัญหาในระยะยาวต้องอาศัยความร่วมมือในระดับรัฐบาลและองค์กรระหว่างประเทศ